Monday, February 29, 2016

Michael E. Porter กับกลยุทธ์ ตอนที่ 1 (ข้อเขียนใหม่)


Thinkers50 ได้จัดอันดับ Management Gurus 50 อันดับแรกของโลก และในปีล่าสุดคือ 2015 Michael E. Porter จาก Harvard Business School ก็ได้กลับมาครองอันดับ 1 ของกูรูทางด้านการจัดการของโลกอีกครั้ง เลยอยากจะขอเขียนเกี่ยวกับวิวัฒนาการทางด้านแนวคิดของ Porter กันซักหน่อย

คนที่ศึกษามาทางด้านบริหารธุรกิจ ไม่ว่าจะระดับใดก็ตาม ย่อมจะรู้จักแนวคิดที่สำคัญทางด้านกลยุทธ์ อย่างเช่น 5 - Forces, Value Chain, Diamond Model, Differentiation Strategy, Cost Leadership Strategy แล้วท่านผู้อ่านทราบไหมครับว่าแนวคิดเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มาจาก Porter ทั้งสิ้น

Porter  มีพื้นฐานการศึกษาเริ่มต้นจากด้านวิศวกรรม ต่อด้วย MBA และสุดท้ายจบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์ธุรกิจหรือ Business Economics

Porter เขียนบทความมากมาย แต่ถ้าเป็นหนังสือ ที่ถือเป็นตำราที่ต้องอ่านของผู้ศึกษาทางด้านกลยุทธ์นั้นจะมีอยู่สามเล่ม ได้แก่

๑. Competitive Strategy ออกจำหน่ายในปี 1980
๒. Competitive Advantage ออกจำหน่ายในปี 1985
๓. The Competitive Advantage of Nations ออกจำหน่ายในปี 1990

หนังสือทั้งสามเล่ม คือจุดกำเนิดและพื้นฐานของแนวคิดดังๆ ของ Porter ทั้ง 5-Forces, Value Chain, Diamond Model, Generic Strategies (Differentiation / Cost Leadership)

โดยหลักคิดของ Porter ในช่วงเวลาดังกล่าวเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันนั้นชัดเจนมาก นั้นคือ

- องค์กรธุรกิจจะประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่งขันได้จะต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความน่าสนใจ และ มีตำแหน่งทางกลยุทธ์ (Strategic Positioning) ที่เหมาะสม
- จะทราบว่าอุตสาหกรรมใดน่าสนใจ ก็สามารถวิเคราะห์ได้ด้วย 5 Forces Analysis 
- จะทราบว่ามีตำแหน่งทางกลยุทธ์ที่เหมาะสมนั้นก็สามารถใช้ Value Chain เป็นเครื่องมือในการวิเคราะ์ เนื่องจาก Value Chain จะอธิบายถึงกระบวนการหรือกิจกรรมที่องค์กรต้องทำเพื่อก่อให้เกิดคุณค่าที่ต้องการ และ การนำเสนอคุณค่าแก่ลูกค้านั้นคือการกำหนดตำแหน่งทางกลยุทธ์
- คุณค่าที่ให้กับลูกค้านั้น หนีไม่พ้นการนำเสนอสินค้าบริการที่เหมือนกับผู้อื่น ไม่มีความแตกต่าง แต่อาศัยต้นทุนที่ต่ำที่สุด (Cost Leadership) หรือ การสร้างความแตกต่างที่ลูกค้ามองเห็นและสามารถเรียกราคาได้สูงกว่า (Differentiation) 

หลักการข้างต้นคือหลักการในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของระดับบริษัท ส่วนการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระดับประเทศนั้น ก็สามารถใช้ Diamond Model มาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ได้

ขอจบภาคแรกก่อนนะครับ ตอนต่อไป จะมาดูว่าหลังจาก Porter สร้างเครื่องมือต่างๆ เพื่อรองรับแนวคิดในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันแล้ว Porter ได้พัฒนาแนวคิดอันใดต่อ





No comments:

Post a Comment